Welcome to The Platinum Fashion Mall Wholesale 2,000 shops

นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ในฐานะเจ้าของและผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม Platinum Fashion Mall และ Platinum Online (“แพลตฟอร์ม”) ได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ จัดเก็บ ส่งต่อ ปกป้อง และจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม (“ผู้ใช้บริการ”) ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัยทั้งในส่วนของผู้สนใจซื้อสินค้าและร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมใช้บริการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบ

เมื่อผู้ใช้บริการตกลงสมัครเปิดบัญชีผู้ใช้งานกับแพลตฟอร์มแล้ว บริษัทจะถือว่า ผู้ใช้บริการยอมรับและตกลงตามนโยบายฉบับนี้ โดยบริษัทสงวนสิทธิในการแก้ไขปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ได้ตามแต่ละระยะเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย หรือรูปแบบการให้บริการบนแพลตฟอร์ม หรือบริการอื่น ๆ ของบริษัทให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยบริษัทจะประกาศอย่างชัดแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงนั้นผ่านแพลตฟอร์ม

การให้บริการของแพลตฟอร์ม

  1. บริษัทขอแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบว่า แพลตฟอร์มมีวัตถุประสงค์ในการเป็นพื้นที่กลางเพื่อเชื่อมโยงและจับคู่ กลุ่มผู้ใช้บริการที่ต้องการซื้อสินค้า และกลุ่มผู้ใช้บริการที่เป็นร้านค้าที่ต้องการขายสินค้า พร้อมทั้งให้เครื่องมือในการติดต่อสื่อสารระหว่างกลุ่มผู้ใช้บริการทั้งสองผ่านทางแพลตฟอร์มโดยตรง แต่อย่างไรก็ตามส่วนของการติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางอื่น รวมถึงการซื้อขายสินค้า (รวมถึงการชำระราคา การส่งมอบสินค้า) หรือการปฏิบัติหน้าที่อื่นที่อาจเกี่ยวข้อง เป็นส่วนการดำเนินการโดยตรงระหว่างกลุ่มผู้ใช้บริการโดยตรง ดังนั้น นโยบายฉบับนี้ไม่รวมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยกลุ่มผู้ใช้บริการดังกล่าว

ขอบเขตการบังคับใช้ของนโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายฉบับนี้ มีผลใช้บังคับกับการใช้บริการแพลตฟอร์มที่ดำเนินการโดยบริษัทโดยตรงเท่านั้น ไม่มีผลใช้บังคับกับเว็บไซต์ และบริการของบุคคลภายนอกที่อาจเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม ที่บริษัทไม่มีอำนาจควบคุม

แหล่งข้อมูลหลักที่บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

บริษัทจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการจากแหล่งข้อมูลดังนี้ (1) ได้รับโดยตรงจากผู้ใช้บริการ ผ่านการลงทะเบียนเปิดบัญชีผู้ใช้งานกับแพลตฟอร์ม การดำเนินการต่าง ๆ ด้วยบัญชีผู้ใช้งานของผู้ใช้บริการ รวมถึงการติดต่อสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทและผู้ใช้บริการ และ (2) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยอัตโนมัติผ่านระบบของบริษัท หรือผ่านการเก็บ รวบรวม และวิเคราะห์การใช้บริการของผู้ใช้บริการผ่านแพลตฟอร์ม

รายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการโดยบริษัท

ด้วยการที่ผู้ใช้บริการสมัครเปิดบัญชีผู้ใช้งาน และใช้บริการของบริษัทผ่านแพลตฟอร์ม บริษัทจะดำเนินการเก็บ รวบรวม ใช้ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการในกระบวนการต่าง ๆ ดังนี้

1.การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติตลอดการใช้บริการ

– ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล: เมื่อผู้ใช้บริการเข้าใช้แพลตฟอร์ม ระบบของบริษัทจะเก็บ รวบรวม ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ โดยอัตโนมัติ ได้แก่ IP address และ/หรือ domain name ของหน้าเพจอื่น ๆ ที่เชื่อมโยงผู้ใช้บริการมาที่แพลตฟอร์ม ประเภทและ Version ของ Browser การตั้งค่าระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการ และข้อมูลพฤติกรรมการใช้บริการของผู้ใช้บริการบนระบบ ซึ่งอาจรวมถึงการใช้คุกกี้ประเภทต่าง ๆ ที่บริษัทอาจดำเนินการเก็บ รวบรวม และใช้หากได้รับความยินยอมจากท่าน

– วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บโดยอัตโนมัตินี้ จะได้รับการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์การปรับปรุงการทำงาน และการนำเสนอข้อมูลบนแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับผู้ใช้บริการได้มากขึ้น

– ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไว้ เท่าที่จำเป็นทางธุรกิจและเทคนิคของบริษัท โดยบริษัทรับประกันจะไม่ดำเนินการใดที่กระทบสิทธิของเจ้าของข้อมูลมากเกินสมควร หรือกรณีคุกกี้ บริษัทจะใช้ข้อมูลจนกว่าผู้ใช้บริการจะถอนความยินยอม

  •  

2.การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการสมัครเปิดบัญชีผู้ใช้งาน

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล: เมื่อผู้ใช้บริการสมัครเปิดบัญชีผู้ใช้งาน บริษัทจะเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังต่อไปนี้ (1) ข้อมูลสำหรับการเปิดบัญชีผู้ใช้งาน ได้แก่ ชื่อนามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์ ประเทศ จังหวัด เขต รหัสไปรษณีย์ และรหัสผ่านสำหรับการเปิดบัญชีผู้ใช้งาน (2) ข้อมูลสำหรับผู้ใช้บริการที่ซื้อสินค้า รวมถึงข้อมูลวันเดือนปีเกิด และเพศ และสำหรับผู้ใช้บริการที่เป็นร้านค้า รวมถึงข้อมูลการติดต่อผ่าน Social Media เช่น Line Account Facebook Page Instagram เป็นต้น และ (3) ภายหลังจากการสมัครเปิดบัญชีผู้ใช้งาน เพื่อรับประกันการให้บริการของแพลตฟอร์มให้ได้เต็มประสิทธิภาพ บริษัทกำหนดสร้าง User ID (“ID”) ให้แก่ผู้ใช้บริการแต่ละท่าน ซึ่ง ID ดังกล่าวจะถูกใช้ เพื่อระบุตัวตนของผู้ใช้บริการแต่ละท่าน ที่เข้ามาใช้บริการแพลตฟอร์ม

– วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูล: บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีการเก็บระหว่างการสมัครเปิดบัญชีผู้ใช้งานทั้งหมด เพื่อ (1) การตรวจสอบคุณสมบัติ และตรวจสอบสิทธิในการใช้บริการส่วนต่าง ๆ ของแพลตฟอร์ม (2) การอ้างอิง เพื่อรวบรวมข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดที่ผู้ใช้บริการได้ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มและ (3) การติดต่อสื่อสารเพื่อการให้บริการของแพลตฟอร์มตามเงื่อนไขการให้บริการของแพลตฟอร์ม

– ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลการสมัครบัญชีผู้ใช้งานนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผู้ใช้บริการยังคงมีบัญชีผู้ใช้งานสำหรับการใช้บริการแพลตฟอร์มกับบริษัท

3.การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้บริการต่าง ๆ ของแพลตฟอร์ม

– ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล: ระหว่างการใช้บริการในส่วนต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มบริษัทจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม ใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเพิ่มเติม โดยแยกตามการให้บริการ ดังนี้ (1) ข้อมูลการติดต่อและการซื้อขายสินค้าระหว่างผู้ใช้บริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวมเพื่อการส่งต่อเปิดเผยให้ผู้ใช้บริการที่เป็นคู่สัญญาซื้อขายระหว่างกัน โดยบริษัทจะทำหน้าที่ในการเก็บและส่งผ่านข้อมูลดังกล่าวเป็นหลัก (2) ข้อมูลการใช้บริการ และข้อมูลธุรกรรมอื่น ๆ ที่ผู้ใช้บริการได้ดำเนินการผ่านบัญชีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มซึ่งได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ข้อมูลการ Log-in ข้อมูลการใช้บริการแต่ละส่วนของผู้ใช้บริการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ประวัติการใช้บริการและการทำธุรกรรม (Transaction History) เป็นต้น (3) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ที่ผู้ใช้บริการอาจติดต่อสื่อสารสอบถามมายังบริษัท หรืออาจเปิดเผยและส่งต่อให้แก่บริษัท เพื่อการจัดกิจกรรมพิเศษ หรือกิจกรรมชิงรางวัลอื่นที่บริษัทอาจจัดขึ้นและที่ผู้ใช้บริการอาจสนใจเข้าร่วม

กรณีของผู้ใช้บริการที่เป็นร้านค้า ในกรณีที่ผู้ใช้บริการอาจนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นใดเข้ามาใช้เป็นเนื้อหาหรือนำส่งเข้ามาบนแพลตฟอร์ม ผู้ใช้บริการดังกล่าวต้องรับประกันสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของตนในการส่งต่อเปิดเผย ใช้และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นดังกล่าวให้แก่บริษัทเพื่อนำเสนอผ่านแพลตฟอร์ม และหากเกิดข้อโต้แย้งใด จะเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้บริการที่เปิดเผยข้อมูลโดยตรง

– วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูล: บริษัทจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างการใช้บริการแพลตฟอร์มทั้งหมดที่ระบุไว้นี้ เพื่อจุดประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการให้บริการโดยบริษัท ให้แก่ผู้ใช้บริการตามข้อตกลงเงื่อนไขการใช้บริการที่บริษัทกำหนดไว้ผ่านแพลตฟอร์มหรือในกิจกรรมอื่น ซึ่งได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง การตรวจสอบยืนยันตัวตน ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ใช้บริการในการใช้บริการต่าง ๆ ของแพลตฟอร์ม การอำนวยความสะดวกในการดำเนินการตามสัญญาซื้อขายที่ผู้ใช้บริการมีระหว่างกัน การแสดงผลการใช้บริการต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มเพื่อการตรวจสอบและอ้างอิงโดยบริษัทและผู้ใช้บริการ รวมถึงการติดต่อสื่อสารไม่ว่ากรณีใดโดยบริษัทไปยังผู้ใช้บริการดังกล่าว (2) เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ที่บริษัทอาจมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าที่ตามกฎหมายเกี่ยวข้องกับการทำบัญชี และการจัดทำเอกสารภาษีอากร (3) เพื่อการปกป้องประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โดยไม่กระทบสิทธิของผู้ใช้บริการในฐานะเจ้าของข้อมูลเกินสมควร ได้แก่ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปกป้องต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัท เพื่อการวางแผนปรับปรุงการให้บริการของบริษัท โดยเฉพาะผ่านแพลตฟอร์มให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้ใช้บริการเฉพาะบุคคล และผู้ใช้บริการในภาพรวม เพื่อการบริหารความเสี่ยงภาพรวมของบริษัทและการป้องกันการทุจริตต่าง ๆ ในระบบแพลตฟอร์ม เป็นต้น (4) กรณีได้รับความยินยอม บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่อาจได้รับความยินยอม โดยเฉพาะการใช้ข้อมูลการติดต่อ เพื่อการส่งข่าวสาร ติดต่อและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจกรรม สินค้า บริการต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการอาจสนใจ ทั้งในลักษณะที่เป็นการแจ้งเตือนบนแพลตฟอร์ม หรือการติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ผู้ใช้บริการได้ลงทะเบียนและแจ้งให้บริษัททราบ

– ระยะเวลาในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: บริษัทกำหนดเก็บ รวบรวม ใช้และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลการใช้บริการแพลตฟอร์มทั้งหมด เพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ เป็นระยะเวลาตลอดระยะเวลาที่ผู้ใช้บริการยังมีบัญชีผู้ใช้ บริการแพลตฟอร์ม กล่าวคือ จนกว่าผู้ใช้บริการจะแจ้งความประสงค์ยกเลิกบัญชีผู้ใช้บริการเป็นลายลักษณ์อักษรมายังบริษัทโดยตรง หรือตลอดระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดหน้าที่ให้บริษัทต้องปฏิบัติตาม และบริษัทสงวนสิทธิในการเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้อีก 5 ปีภายหลังจากการยกเลิกบัญชีผู้ใช้งานของผู้ใช้บริการแต่ละราย เพื่อวัตถุประสงค์ในการปกป้องประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และกรณีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความยินยอมที่ผู้ใช้บริการอาจให้แก่บริษัท บริษัทจะเก็บข้อมูลไว้ จนกว่าผู้ใช้บริการจะยกเลิกการให้ความยินยอมนั้น

4.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ

โดยหลักการ บริษัทจะไม่เปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้แก่บุคคลอื่น เว้นแต่บุคคลดังต่อไปนี้

– ผู้ใช้บริการรายอื่นที่เป็นคู่สัญญาซื้อขายสินค้าระหว่างกัน ด้วยรูปแบบการให้บริการของบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการที่ต้องการซื้อและขายสินค้า ข้อมูลผู้ใช้บริการของร้านค้าจะได้รับการเปิดเผยเป็นสาธารณะเพื่อให้ผู้ใช้บริการที่ต้องการซื้อสินค้าใช้ในการติดต่อ และเมื่อเกิดการติดต่อสื่อสาร และ/หรือทำธุรกรรมซื้อขายระหว่างกัน ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่เป็นคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องระหว่างกัน ย่อมต้องมีความจำเป็นได้รับการเปิดเผยส่งต่อให้แก่กัน เพื่อการติดตามและการดำเนินธุรกรรมซื้อขายระหว่างกันให้สำเร็จ ทั้งนี้บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว บนพื้นฐานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

– ผู้ให้บริการภายนอกที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้บริการของแพลตฟอร์มหรือจำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งได้แก่ ผู้ให้บริการภายนอกที่บริษัทอาจว่าจ้าง เพื่อการทำงานให้บริการของแพลตฟอร์มให้แก่ผู้ใช้บริการ ได้แก่แต่ไม่จำกัดเพียง ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงผู้ให้บริการภายนอก ซึ่งได้รับการว่าจ้างเพื่อการประกอบธุรกิจทั่วไปของบริษัท เช่น บริษัทที่ปรึกษา ทั้งนี้สำหรับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเฉพาะเท่าที่จะเป็นเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะการให้บริการของบริษัทต่อผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ และบริษัทจะกำหนดมาตรการอย่างเหมาะสมในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงจะมีการจัดทำสัญญาการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมกับผู้ให้บริการนั้น

– หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานกำกับดูแล ที่บริษัทอาจมีหน้าที่ภายใต้กฎหมาย กฎระเบียบ หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกำหนด รวมถึงคำสั่งของหน่วยงานราชการ

– กรณีผู้ใช้บริการให้ความยินยอม บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่นที่ผู้ใช้บริการกำหนด

5.มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

การปกป้องความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับบริษัท ทั้งนี้ บริษัทรับประกันใช้มาตรการที่เหมาะสมในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่อยู่ในการคุ้มครองของบริษัท จากการถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด สูญหาย เข้าถึง โดยมิได้รับอนุญาต ดัดแปลงต่อเติม หรือเปิดเผย ให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

6.สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล

บริษัทเคารพสิทธิตามกฎหมายของผู้ใช้บริการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่อยู่ในการคุ้มครองของบริษัท ซึ่งรวมถึงสิทธิดังต่อไปนี้ (1) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง (2) สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไป ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น (3) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (4) สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น (5) สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ และ (6) สิทธิถอนความยินยอม

7.ข้อมูลการติดต่อบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทยินดีรับคำถาม ข้อร้องเรียน ความเห็น และคำขอใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ โดยเฉพาะการใช้สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลของผู้ใช้บริการ โดยผู้ใช้บริการสามารถส่งมาที่อีเมล digital.mkt@theplatinumgroup.co.th